อับเดลฮัค นูรี เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 1997 เกิดในอัมสเตอร์ดัมและมีเชื้อสายโมร็อกโก เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเป็นหลักแต่ก็สามารถลงเล่นในตำแหน่งปีกได้ด้วยเช่นกัน
อับเดลฮัค นูรี เกิดในย่านผู้อพยพชานเมืองของอัมสเตอร์ดัม มีพ่อเป็นชาวโมร็อกโก ทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายเนื้อเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวจนกระทั่งมีลูกชาย อับเดลฮัค หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า แอปปี้
ในถิ่นที่แอปปี้อยู่ มีสนามฟุตบอลพื้นคอนกรีต ที่แอปปี้กับเพื่อนจะเล่นกันทุกวันจนเป็นภาพชินตาของคนที่นั่น เด็กทุกคนรู้ดีว่าในความยากลำบากของชีวิตที่ได้เจอ แต่หากพวกเขาเล่นฟุตบอลได้ดี เล่นได้เก่ง จะเป็นตัวช่วยที่ฉุดพวกเขาและครอบครัวไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าและแอปปี้ก็คาดหวังไว้กับเส้นทางนี้
ปี 2005 เขาได้เข้าสู่ทีมอคาเดมีของ อาแจ็กซ์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี โดยนักเตะในรุ่นนั้นที่เติบโตมามีชื่อเสียงและเป็นเพื่อนซี้ของเขา ได้แก่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค นั่นเอง
แอปปี้จะมีสไตล์การเล่นที่ได้ DNA มาจากพ่อ กล่าวคือเรื่องของรวดเร็ว คล่องแคล่ว และมีเทคนิคแพรวพราว เป็นนักเตะที่อยู่ระดับแถวหน้าของเยาวชนทุกคนในสโมสร
ในปี 2015 แอปปี้เติบโตขึ้นในระบบเยาวชนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดสำรอง และสุดท้ายทีมเยาวชนอาแจ็กซ์ที่นำโดย แอปปี้ และ ฟาน เดอ เบ็ค ก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ตอนที่พวกเขายังมีอายุแค่ 18 ปี
สำหรับแอปปี้นั้นการได้สัญญาอาชีพมีความหมายมากกว่าเรื่องของลูกหนัง แต่เป็นเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ที่ครอบครัวของเขาจะได้ลืมตาอ้าปากจริง ๆ จัง ๆ เสียที เพราะตอนนั้นพ่อของเขาก็ต้องออกจากการเป็นลูกจ้างร้านขายเนื้อ เนื่องจากมีปัญหาที่กล้ามเนื้อหัวไหล่เพราะอยู่กับการสับและชำแหละเนื้อมาตลอดชีวิต … ดังนั้นนี่คือโอกาสที่พ่อของเขาจะได้พัก
ผลงานที่โดดเด่นของแอปปี้คือการโดนส่งไปเล่นในลีกรอง ในฤดูกาล 2016-17 ที่เขายิงไป 11 ประตูและได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก นอกจากนี้ยังได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่และอยู่ในชุดที่ได้รองแชมป์ ยูโรปา ลีก ในปี 2017 ที่แพ้ผีแดง อีกด้วย
แอปปี้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชุดใหญ่พร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาในฤดูกาล 2017-18 ซึ่งตอนนั้นทีมโค้ชของ อาแจ็กซ์ วางตัวแอปปี้เอาไว้ในฐานะนักเตะที่จะได้มีส่วนร่วมในการลงสนามมากขึ้น
แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับแอปปี้ เมื่อเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2017 เป็นเกมอุ่นเครื่องระหว่าง แวร์เดอร์ เบรเมน กับ อาแจ็กซ์ ซึ่งไปจัดที่ประเทศออสเตรีย โดยในเกมนั้นแอปปี้โดนเปลี่ยนตัวลงมาแทน ซิเย็ค ตามแท็คติกในนาทีที่ 72 ทว่าหลังจากลงสนามได้ไม่กี่นาทีเขาก็ล้มลงแบบไม่มีใครรู้สาเหตุ
ทุกฝ่ายรุมช่วยเขาอยู่พักใหญ่ แต่อาการไม่ดีขึ้นแพทย์ระบุชัดเจนว่าอาการของเขาเข้าขั้นโคม่าต้องติดตามอาการแบบนาทีต่อนาที และสุดท้ายเมื่อครอบครัวของเขาเดินทางจาก อัมสเตอร์ดัม มาถึง เยอรมัน พวกเขารีบถามหมอทันทีว่า แอปปี้ จะกลับมาเป็นปกติไหม ? และคำตอบของคุณหมอคือ เขาจะไม่หายกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว
สโมสรอาแจ็กซ์ พยายามช่วยเหลือครอบครัวแอปปี้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการรักษา และการดูแลครอบครัว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่หากทุกคนไม่ประมาทจนเกินไปนัก ความจริงจากคุณหมอผู้รักษาไข้ ก็ยืนยันว่าสาเหตุที่ แอปปี้ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไม่ใช่เรื่องของความโชคร้ายอย่างเดียว แต่เกิดจากความไม่พร้อมของระบบการปฐมพยาบาลด้วย
เรื่องดังกล่าวมันชัดเจนมากว่า การปฐมพยาบาลที่ผิดพลาดมีผลต่อร่างกายที่เปลี่ยนไปตลอดกาลของแอปปี้ ซึ่งในส่วนนี้เอง ฟาน เดอ ซาร์ ก็ออกมายอมรับผิดในฐานะตัวแทนของสโมสรถึงการปฏิบัติงานที่ล่าช้า จนคนๆ หนึ่งต้องเสียอนาคตไป
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่โลกต้องสูญเสียนักเตะมากด้วยพรสวรรค์คนหนึ่งไป พี่ชายของ แอปปี้ ยอมรับว่าตอนนี้มีเพียงปาฎิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้น้องชายของเขากลับมาเป็นปกติได้ … ไม่แน่เหมือนกันว่าโลกนี้อาจจะมีปาฎิหาริย์จริงๆ ก็เป็นได้ เพราะอะไรๆที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ในทุกนาที แอปปี้ล้มลงด้วยความไม่คาดฝัน … วันหนึ่งเขาอาจจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งแบบสุดเซอร์ไพรส์ก็ได้ใครจะรู้